แนะนำ 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียปี 2020

10 Asia Universities

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งในภูมิภาคเอเชียได้พัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว จนก้าวขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของโลกทั้งด้านวิชาการและการวิจัย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่มีให้อย่างครบครัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ บทความนี้ Allianz Travel จึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของภูมิภาคเอเชียปี 2020 จะมีที่ไหนบ้าง และจะน่าเรียนแค่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ

1. NATIONAL UNIVERSITY OF SINGAPORE (NUS), SINGAPORE

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของสิงคโปร์ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1980 ในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้นมีฐานะเป็นเพียงวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ก่อนจะเริ่มขยายไปสอนสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ในเวลาต่อมา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาล เปิดสอนทั้งสิ้น 17 คณะ มีนักศึกษาที่มาจาก 100 ประเทศทั่วโลก

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 11 (อันดับ 1 ของเอเชีย)

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 35,908 คน

ระดับปริญญาตรี: 27,604 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 8,304 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิศวกรรมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นโยบายรัฐและการจัดการ สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ สิ่งแวดล้อมศึกษา

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: 392,000 ถึง 1,400,000 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

NATIONAL UNIVERSITY OF SINGAPORE (NUS), SINGAPORE
รูปภาพจาก The strait times

2. NANYANG TECHNOLOGY UNIVERSITY (NTU), SINGAPORE

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง มหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสิงคโปร์ ภายหลังจากที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยนันยางรวมกัน สถาบันเทคโนโลยีนันยางจึงแยกตัวออกมา และพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในปี ค.ศ. 1991

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางถือเป็นมหาวิทยาลัยน้องใหม่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของโลกด้านวิชาการและวิจัยในระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางเปิดสอน 8 คณะด้วยกัน ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พาณิชยศาสตร์ แพทยศาสตร์ มนุยศาสตร์ ศิลปศาสตร์สังคมศาสตร์ และครุศาสตร์

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 11 (อันดับ 2 ของเอเชีย)

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 31,687 คน

ระดับปริญญาตรี: 23, 665 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 8,022 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: 396,000 ถึง 865,165 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

3. TSINGHUA UNIVERSITY, CHINA

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมศาสตร์ในประเทศจีนและระดับโลก คงหนีไม่พ้นมหาวิทยาลัยชิงหวา เพราะที่นี้ได้ชื่อว่าเป็น “MIT ของประเทศจีน”

มหาวิทยาลัยชิงหวาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1911 ในฐานะสถาบันที่เตรียมนักศึกษาจีนไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีวิทยาลัยย่อยกว่า 20 วิทยาลัย และมีภาคสาขาวิชากว่า 57 สาขา อาทิ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วรรณกรรม สังคมศาสตร์ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหวาได้รับการจัดอันจากหลายเว็บไซต์ให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศจีน มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ ประธานาธิบดีหูจิ่นเทา และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง นอกจากนี้ยังมีคนมีชื่อเสียงระดับโลกมาเป็นอาจารย์บรรยายพิเศษ อาทิ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บิล คลินตัน หรืออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เฮนรี คิสซิงเจอร์

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 16

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 50,394 คน

ระดับปริญญาตรี: 16,037 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 34,357 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: สถาปัตยกรรมศาสตร์ วิศวกรรมโยธา ฟิสิกส์และดาราศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: 110,000 ถึง 1,110,000 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

TSINGHUA UNIVERSITY, CHINA

4. PEKING UNIVERSITY, CHINA

มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1898 ก่อนที่ในช่วงทศวรรษ 1920 จะมีชื่อเสียงขึ้นมาจากการเป็นแหล่งรวมนักศึกษาหัวก้าวหน้าในขบวนการปฏิวัติจีน มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีชื่อเสียงทางวิชาการและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และการสอน ปัจจุบันเปิดสอนใน 30 วิทยาลัยย่อย และ 12 ภาควิชา มีหลักสูตรระดับปริญาตรี 93 หลักสูตร ระดับปริญญาโท 199 หลักสูตร และระดับปริญญาเอกอีก 173 หลักสูตร

นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแล้ว ภายในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้เยี่ยมชมด้วย อาทิ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดี ซึ่งนักศึกษาสามารถเข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติจีนเป็นระยะเวลาหลายพันปีผ่านสิ่งของที่จัดแสดง

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 22

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 39,575 คน

ระดับปริญญาตรี: 15, 628 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 27,027 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ เคมี วิทยาศาสตร์วัสดุ โบราณคดี มนุษยศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: 120,718 ถึง 873,281 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

PEKING UNIVERSITY, CHINA

5. THE UNIVERSITY OF HONG KONG, HONG KONG

มหาวิทยาลัยฮ่องกงแรกเริ่มเป็นวิทยาลัยแพทยศาสตร์สำหรับคนจีน ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 1911 นับว่าเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดของฮ่องกง และเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ก่อตั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกโดยประเทศเจ้าอาณานิคมอังกฤษ

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 25

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 29,791 คน

ระดับปริญญาตรี: 17,106 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 12,685 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิทยาศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ ชีวการแพทย์ ครุศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: ประมาณ 708,322 บาทต่อปี

THE UNIVERSITY OF HONG KONG, HONG KONG

6. HONG KONG UNIVERSITY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY (HKUST), HONG KONG

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ฮ่องกง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยบนเกาะฮ่องกงที่อายุน้อยและมีพลังขับเคลื่อนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นผู้บุกเบิกในการทำวิจัยที่ทันสมัย และได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีคุณภาพติดอันดับโลก โดยเฉพาะสาขาวิชาวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และการบริหารจัดการ ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในบรรยากาศสบาย ๆ ต้องมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ฮ่องกง เพราะที่นี้ติดทะเล และมีทัศนียภาพที่สวยงามมากค่ะ

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 32

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 16,054 คน

ระดับปริญญาตรี: 10,148 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 7,664 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ธุรกิจและการบริหารจัดการ

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: ประมาณ 579,913 บาทต่อปี

HONG KONG UNIVERSITY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY (HKUST), HONG KONG

7. FUDAN UNIVERSITY, CHINA

มหาวิทยาฟูตันเป็นมหาวิทยาลัยยอดนิยมของนักศึกษาจีน เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยฟูตันก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1905 เกิดจากการรวมตัวมหาวิทยาลัยฟูตันและมหาวิทยาลัยแพทย์เซี่ยงไฮ้ โดยอยู่ภายใต้กฎกระทรวงศึกษาธิการและเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับต้น ๆ ของจีนทุกปีในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยฟูตันประกอบไปด้วย 43 คณะ หลักสูตรปริญญาตรี 57 สาขา หลักสูตรปริญญาโท 148 สาขา หลักสูตรปริญญาเอก 103 สาขา และ 22 สาขาของหลักสูตรต่อเนื่องปริญญาเอกด้านการสื่อสาร ทางมหาวิทยาลัยยังมีสถาบันวิจัยและศูนย์กลางวิจัยการศึกษาและการร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลและหน่วยแพทย์การสอนเกี่ยวกับคลินิกและการวินิจฉัย

นอกจากความมีชื่อเสียงด้านวิชาการและงานวิจัยแล้ว มหาวิทยาลัยฟูตันยังมีชมรมให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างบุคคลิกภาพตัวเองกว่า 300 ชมรม ซึ่งบางชมรมมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกือบร้อยปี อาทิ ชมรมโอเปร่า หรือชมรมวาดพู่กันจีน เป็นต้น

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 40

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 28,900 คน

ระดับปริญญาตรี: 14,100 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 14,800 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: เคมี ภาษาศาสตร์ เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ รัฐศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: 106,752 ถึง 348,349 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

FUDAN UNIVERSITY, CHINA

8. KAIST – KOREA ADVANCED INSTITUTE OF SCIENCE AND TECHNOLOGY, SOUTH KOREA

Korea Advanced Institute of Science & Technology (KAIST) หรือชื่อภาษาไทยคือ สถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1971 ณ เมืองแทจอน โดยรัฐบาลเกาหลีใต้จัดให้เป็นสถาบันวิจัยแห่งแรกของประเทศที่มุ่งเน้นงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์

KAIST เป็นสถาบันอุดมศึกษาเดียวที่รัฐบาลเกาหลีให้ดูแลโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแทนที่จะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ KAIST ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเกาหลี ได้รับการพิจารณาว่าทัดเทียมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา โดย KAIST มีชื่อเสียงด้านวิจัยและวิชาการในหลากหลายสาขา

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 41

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 11,109 คน

ระดับปริญญาตรี: 3,879 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 7,230 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์วัสดุ เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: ประมาณ 224,741 บาทต่อปี

KAIST – KOREA ADVANCED INSTITUTE OF SCIENCE AND TECHNOLOGY, SOUTH KOREA

9. THE CHINESE UNIVERSITY OF HONG KONG (CUHK), HONG KONG

มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1963 ตั้งอยู่ในเขตชาทิน บนเกาะฮ่องกง มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการวิจัย โดยเน้นการวิจัยในสี่สาขาเป็นหลักได้แก่จีนศึกษา การปลูกถ่ายและชีวการแพทย์ เทคโนโลยีสารสนเทศและหุ่นยนอัตโนมัติ และการพัฒนายั่งยืนและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงยังมีหลักสูตรการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทให้เลือกเรียนกว่า 300 หลักสูตรการศึกษา ซึ่งออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้แก่นักศึกษา ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วิชาการเฉพาะทางในแต่ละด้าน และนอกจากนี้ยังมีบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่เคยได้รับรางวัลโนเบลอีกด้วยค่ะ

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 46

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 20,608 คน

ระดับปริญญาตรี: 17,038 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 3,570 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: นิเทศศาสตร์ ภูมิศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ ปรัชญา การเงิน ภาษาศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: ประมาณ 497,068 บาทต่อปี

THE CHINESE UNIVERSITY OF HONG KONG (CUHK), HONG KONG

10. ZHEJIANG UNIVERSITY, CHINA

มหาวิทยาเจ้อเจียง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1897 ตั้งอยู่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีน ปัจจุบันมีวิทยาลัยกว่า 37 สาขา และมีหลักสูตรระดับปริญาตรี 140 หลักสูตร และหลักสูตรปริญาโทกว่า 300 หลักสูตร โดย 53 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยจะเป็นนักศึกษาระดับปริญาโท

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงมีชื่อเสียงด้านวิชาการและการวิจัยด้านนวัตกรรม มีการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องหลากหลายสขา อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีเครื่องบิน พลังงานสะอาด เป็นต้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังมีชื่อเสียงด้านสตาร์ทอัพ เนื่องจากศิษย์เก่าจำนวนมากที่จบจากที่นี้เป็นเจ้าของสตาร์ทอัพมากกว่า 100 แห่งในประเทศจีน

อันดับมหาวิทยาลัยโลก: 54

จำนวนนักศึกษาทั้งหมด: 54,614 คน

ระดับปริญญาตรี: 25,425 คน

ระดับปริญญาโทและเอก: 29,216 คน

สาขาที่มีชื่อเสียง: วิศวกรรมศาสตร์และเทคโลยี สิ่งแวดล้อมศึกษา ดาราศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์

ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรี: ประมาณ 139,275 บาทต่อปี ขึ้นกับสาขาวิชาที่เรียน

ZHEJIANG UNIVERSITY, CHINA

สำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาที่สนใจที่จะศึกษาต่อต่างประเทศ ต้องพิจารณาสถาบันการศึกษาอย่างรอบคอบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงมหาวิทยาลัย สาขาวิชา สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หรือค่าเทอมต่อปีการศึกษา ทั้ง 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียที่เราแนะนำวันนี้ หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ผู้อ่านได้พิจารณาและเป็นแนวทางในการเลือกที่ที่จะเรียนต่อได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก :
QS World Ranking 2020

Blog Disclaimer

All content provided on this blog is for informational purposes only. The content of this blog neither makes representations as to the accuracy or completeness of any information on this site, nor is construed as Allianz Travel’s offering of travel insurance, unless explicitly stated. Details of benefits, limits, policy exclusions, terms and conditions of Allianz Travel insurance can be found under Allianz Travel Policy Wording.

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและดูแลคุณ

อลิอันซ์ทราเวลเป็นผู้นำระดับโลกด้านประกันภัยการเดินทางและบริการช่วยเหลือทั่วไป เรามีแผนประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก ครอบคลุมตั้งแต่แผนรายเที่ยว แผนรายปี แผนครอบครัว ไปจนถึงแผนเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ เราทุ่มเทที่จะให้บริการช่วยเหลือและปกป้องคุณทุกที่ ทุกเวลาเท่าที่เราจะทำได้ เราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประกันภัยและการให้ความช่วยเหลือ แต่เรามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่มากกว่านั้น และทุกบริการของเราก็เพื่อลูกค้าคนสำคัญของเรา

Comments